Failure of Vacuum Distillation

Failure of Vacuum Distillation

ปัญหาของเครื่องกรอง Vacuum Distillation ไม่สามารถแยกนำ้ปริมาณมากออกจากเครื่องจักร

Vacuum Distillation ทำงานโดยหลักการลดจุดเดือดของนำ้ที่ 100 °C ลงมาที่ 70°C ด้วยการเปลี่ยนแรงกดดันบรรยกาศโลกจากที่ 14.6 psi ให้กลายเป็นสูญญากาศที่ 21 inch/ Hg นำ้ในนำ้มันก็จะเปลี่ยนเป็นไอลอยออกมาจาก Vacuum Chamber ซึ่งถูก Vacuum Pump (Liquid Ring Type) สร้างแรงดูดสูญญากาศขึ้นมา ดูดนำ้มันจากนอกเครื่องผ่าน Circulating heater เข้ามากระจายให้เป็นละอองในถัง Vacuum Chamber ไอนำ้จะวิ่งผ่าน Condenser ที่ระบายความร้อนลงทำให้ไอนำ้เกาะตัวเป็นหยดนำ้ออกมาจากระบบ ผ่าน Vacuum Pump

เมื่อนำ้เป็นไอลอยตัวขึ้นไป นำ้มันก็จะตกลงมาก้นถัง Vacuum Chamber เกียร์ปั๊มตัวที่สองจะดูดนำ้มันออกมาวิ่งผ่านฟิลเตอร์กระดาษเพื่อกรอง Solid Particle ออกมาจากเครื่องกรอง

Vacuum Distillation Unit

ข้อเสียของวิธีแยกนำ้โดยใช้ Vacuum มีดังต่อไปนี้

  1. Vacuum Distillation ใช้กับ High Viscosity Oil ไม่ได้ – ใช้แรงดูดสูญญากาศ ดึงนำ้มันสกปรกผ่าน Circulating heater, Vacuum Chamber, Condenser และ Vacuum Pump ถ้านำ้มันมี Viscosity ที่ ISO Grade 220 หรือมากกว่านี้ แรงดูดสูญญากาศจะไม่พอที่จะดูดนำ้มันเข้ามาระบบได้ ดังนั้น High Viscosity Oils จึงใช้ Vacuum มาแยกนำ้ออกจากนำ้มันไม่ได้
  2. ใช้อุณหภูมินำ้มันสูงเกินไป – ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจจึงเพิ่มอุณหภูมิ Heater จาก 70°C ไปเป็น 80°C – 85 °C เพื่อใช้ความร้อนช่วยลดความหนืด Viscosity ของนำ้มัน ทำให้แรงสูญญากาศจาก Vacuum Pump ดูดนำ้มันเข้าเครื่องได้ แต่ที่อุณหภูมิที่เกิน 75°C ขึ้นไปจะไป Overheat และ Burn นำ้มันให้ไหม้เกิดปฎิกิริยา Oxidation สูงขึ้นทันที และนำ้มันก็จะเริ่มเกิดความเป็นกรด Oil Acidity สูงขึ้นไปทำลายโครงสร้าง Hydrocarbon ของนำ้มัน
  3. มีปัญหาเรื่องฟองอากาศ Air Foaming – ในกรณีที่มีนำ้เกิน 1%-3% ขึ้นไป Excessive water นี้จะไปลดแรงตึงผิวของนำ้มันทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นในถัง Vacuum Chamber ฟองอากาศนี้ก็จะหลุดผ่านเข้าไปใน Vacuum Pump ทำให้ฟิมล์ของสูญญากาศแตกออกขนาด Vacuum จะตกลดกำลังลงทันที ค่า Vacuum จะปรับลดลงตำ่กว่า 21 inch/Hg ไปถึง 16 inch/Hg ที่ทำให้นำ้ไม่แตกออกจากนำ้มัน ทำให้ใช้ไม่ได้ ประสิทธิภาพลดลงกว่า 50% แถมยังทำให้ Vacuum Pump สึกหรอเร็วมีอายุการใช้งานตำ่อีกด้วย
  4. ช้ Degassing สารอันตรายไม่ได้ เช่น CH4 Methane, C2H2 Acetylene สารอันตรายเหล่านี้มักจะถูกหมักหมมซ่อนอยู่ใน Hydrocarbon รูปแบบต่างๆ เมื่อ Vacuum ทำงานจะดูดสารเหล่านี้ผ่าน Vacuum Pump และ Condenser ทำให้เกิด Corrosion และความเสียหายและอายุสั้นกับ Vacuum Pump ผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงมักไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าทำไมปั้มถึงพังบ่อยๆ
  5. ในแต่ละ Pass ของการกรองผ่าน Vacuum Distillation จะสามารถแยกนำ้ได้ที ละ 1,000-2,000 ppm เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ, oil viscosity และคุณภาพของ Base oil) ในกรณีที่มีนำ้เกิน 3,000 ppm ขึ้นไป นำ้จะถูกแยกเพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้นำ้มันที่ถูก Discharge ออกจากเครื่อง Vacuum Distillation ยังมีนำ้จำนวนมากค้างอยู่ในนำ้มัน แล้วนำ้มันนี้จะถูกส่งคืนลงไปในถัง Oil Reservoir
  6. มีปัญหาถ้ามีนำ้จำนวน 3% (30,000 ppm) ในนำ้มัน ถูกดูดออกจากก้นถังของ oil reservoir ออกไปยังเครื่อง Vacuum Distillation เพื่อดึงนำ้ออก สมมุติว่า Vacuum Distillation แยกนำ้ได้ทีละ 10% (3,000 ppm) ที่นับว่าสูงมากเกินจริง ดังนั้นนำ้มันที่ผ่านออกมาก็จะมีนำ้อยู่ที่ 27,000 ppm ส่งผ่านออกจากเครื่อง Vacuum Distillation ไปบนถังทางเข้าของถัง oil reservoir นำ้จำนวน 27,000 ppm จะถูกผสมกับนำ้มันบนถังทันทีและถ้า oil reservoir มีขนาดใหญ่เกิน 1,000 ลิตรขึ้นไป Vacuum Distillation นี้จะกลายเป็นตัวสร้างปัญหาที่เป็น mixer การนำนำ้จากก้นถังขึ้นไป ผสมกับนำ้มันบนถังทันที ถึงแม้นำ้จะถูกดึงออกจากระบบ pass ละ 3,000 ppm ก็ตาม ดังนั้น นำ้ที่พยายามจะแยกออกจากระบบจะไม่มีวันหมดจากระบบทั้งๆ ที่ Vacuum Distillation วิ่งอยู่ตลอดเวลา 3 เดือน 6 เดือนในถัง oil reservoir ก็ยังมีนำ้ค้างอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะ test ปริมาณนำ้จากถังดูเหมือนค่านำ้จะลดลงแล้วก็ตาม รออีกไม่กี่วัน ปริมาณนำ้ก็จะกลับเพิ่มคืนเหมือนเดิม สร้างความเสียหายให้กับเครื่องจักรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด วิธีของ Vacuum Distillation จึงใช้แก้ปัญหานำ้เยอะ Excessive Water นี้ไม่ได้ คือวิธีนี้ไม่ work แต่ปัญหานี้จะถูกแก้ไขได้หมดด้วยวิธีการแยกนำ้ของ Vacuum Jet Dehydration ของ OilPure

Vacuum Distillation แยกนำ้ออกจากนำ้มัน แล้วแยกนำ้อยู่เป็นหลายเดือน แยกนานเท่าไหร่ นำ้ก็ออกไม่หมด เพราะเครื่อง Vacuum Distillation นี้เป็นตัวการนำนำ้จากก้นถัง (Free Water) ส่งคืนไปผสมยังถังข้างบน เลยกลายเป็นตัว mixer จากนำ้ก้นถังไปยังนำ้บนถัง

OilPure VJ Vacuum Jet Dehydration ใช้วิธีการแยกนำ้ออกจากนำ้มันได้อย่างสมบูรณ์ โดยแยกได้ทั้ง Dissolved Water และ Free Water ไปพร้อมๆ กัน นำ้มันที่ออกจากเครื่อง VJ จะมีนำ้อยู่ในระดับ 50-100 ppm ในเวลาที่นำ้ในนำ้มันก่อนเข้าเครื่อง VJ มีถึง 30,000 ppm.

VJ Vacuum Jet Dehydration มีถังอยู่ภายใน Built-in Dehydrating Tank ที่ทำให้มีการแยกนำ้ออกแบบ Multiple Pass Dehydration และปริมาณนำ้จะถูกควบคุมด้วย MS1 Moisture Sensor จาก 30,000 ppm จนนำ้ลดลงถึง 50-100 ppm แล้วปั้มจึง discharge Dried Oil ออกจากเครื่อง VJ ดังนั้นนำ้ Free Water จากก้นถังจะไม่สามารถถูกนำไปรวมกับ Upper Oil ในถัง Oil Reservoir ได้ ในไม่ช้า นำ้ในเครื่องจักรก็จะค่อยลดน้อยจนหายไปหมดจากระบบการหล่อลื่น

Vacuum Jet Dehydration ยังสามารถอ่านและแสดงค่านำ้ในนำ้มันได้ทั้ง % aW (Saturated Point) และ ppm และสามารถส่งสัญญาณผ่าน Remote Monitoring ผ่านทาง App เข้าโทรศัพท์มือถือ ได้ทั้งระบบ IOS iPhone และ Android เครื่อง VJ ยังมีคุณสมบัติในการทำ Remote Control Operation สามารถควบคุมการทำงานของเครื่อง VJ เสมือนยืนอยู่หน้าเครื่องได้อีกด้วย คุณสมบัติเหล่านี้ไม่มีอยู่ในเครื่องกรองนำ้มันชนิดอื่นที่มีขายอยู่ในทั้งตลาดอเมริกา ยุโรบและเอเซีย

The above information is based on our experiences with users and their comments who wishes the manufacturer can improve their products. Please review with good discretion.

This image has an empty alt attribute; its file name is OPMS-Letter-Head-Address-Logo-2-1024x110.png

© Copyright, August, 2021 เอกสารและข้อมูลในเว็บไซต์นี้มีลิขสิทธ์ ห้ามนำไปเผยแพร่หรือสื่อสารโดยมิได้รับอนุญาตจาก OilPure